ราคาน้ำบอล 3 ประเภท

ราคาน้ำบอล ทั้ง 3 ประเภท MY, HK และ EU ทำงานอย่างไร ?

ในบทความนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับวิธีการทำงาน ราคาน้ำบอล ทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ MY(มาเลย์), HK(ฮ่องกง), และ EU(ยุโรป) ซึ่งแต่ละประเภทจะมีวิธีการนำเสนอที่ไม่ซ้ำกันในการแสดงถึงความน่าจะเป็น และการจ่ายเงินรางวัลที่แตกต่างกันออกไป และถือเป็นสิ่งที่นักพนันมักจะพบเจอกันอยู่บ่อยครั้ง ในเวลาที่กำลังจะแทงบอลออนไลน์ผ่านเว็บ

ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็นนักแทงบอลมือใหม่ที่เพิ่งเริ่ม หรือ มือเก๋าที่ช่ำชอง ก็อาจจะเกิดความสับสนในระหว่างการเดิมพันได้ ทำให้การเรียนรู้ความแตกต่างของราคาน้ำแต่ละประเภท จึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ขาดไม่ได้ เพราะฉะนั้นทำสมองให้โล่งเข้าไว้ เมื่อคุณพร้อมแล้วเราจะพาไปเจาะลึกวิธีการทำงานของราคาน้ำแต่ละประเภทกัน

ยาวไปเลือกอ่านทีละหัวข้อ

ราคาน้ำบอล คืออะไร และมีความสำคัญกับการแทงบอลอย่างไร ?

อัตราเดิมพัน หรือ “Odds ratio” ในไทยมักนิยมเรียกว่า “ราคาน้ำ” หรือ “ค่าน้ำ” คือตัวเลขแสดงโอกาสความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ ที่ใช้เพื่อคำนวณการจ่ายเงินรางวัลสำหรับผลลัพธ์เดิมพันที่เกิดขึ้น โดยที่ตัวเลขราคาน้ำยิ่งสูงขึ้นมากเท่าไหร่ ความน่าจะเป็นในการเกิดผลลัพธ์ก็จะยิ่งต่ำลง ทำให้เงินรางวัลที่จ่ายสูงขึ้น กลับกันในขณะที่ตัวเลขราคาน้ำต่ำลง บ่งบอกถึงความน่าจะเป็นในการเกิดผลลัพธ์ที่สูงขึ้น ทำให้เงินรางวัลที่ได้น้อยตามลงไป

โดยค่าน้ำนี้มักจะถูกนำไปใช้กับการเดิมพันหลากหลายประเภททั้งแบบที่สามารถนับผลสกอร์ได้อย่าง ฟุตบอล บาส เทนนิส และแบบที่ไม่สามารถนับผลสกอร์ได้เช่น มวย แข่งม้า ฯลฯ ดังนั้นราคาน้ำจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการเดิมพัน เพราะเป็นตัวเลขที่จะช่วยบอกว่า ถ้าหากเราเดิมพันไปจะมีโอกาสชนะและแพ้โดยประมาณอยู่ที่กี่เปอร์เซนต์ และจะได้รับเงินหรือเสียเงินเท่าไหร่หากเดิมพันชนะหรือแพ้ ทำให้ผู้เล่นสามารถใช้ตัวเลขเหล่านี้เพื่อประเมิณความเสี่ยงของผลลัพธ์ และผลตอบแทนที่จะได้รับก่อนที่จะเดิมพันได้

ราคาน้ำบอล ที่นิยมใช้ในไทยมีแบบไหนบ้าง ?

โดยปกติแล้ว อัตราเดิมพัน หรือ ราคาน้ำบอล จะมีหลากหลายประเภทขึ้นอยู่กับเจ้ามือรับแทง หรือเว็บเดิมพันที่เราเลือกเข้าไปใช้บริการว่าเขาเปิดให้ใช้งานแบบไหนบ้าง ซึ่งเว็บในไทยส่วนใหญ่จะเปิดราคาน้ำให้เลือกเดิมพันทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่

1. อัตราจ่าย MY หรือ ราคาน้ำแบบมาเลย์เซีย

ราคาน้ำบอล MY

อัตราจ่ายของมาเลย์ หรือที่เรียกว่าราคาน้ำแบบมาเลย์เซีย มีต้นกำเนิดมาจากประเทศ Malaysia เป็นราคาน้ำที่มีรูปแบบเฉพาะ แตกต่างจากราคาน้ำแบบทศนิยม หรือแบบเศษส่วนของทางอเมริกา โดยที่แบบมาเลย์จะแบ่งออกเป็นสองส่วนย่อยคือ ตัวเลขติดบวก(ราคาน้ำดำ) และ ตัวเลขติดลบ(ราคาน้ำแดง)

โดยราคาน้ำมาเลย์ที่เป็นค่าบวก หรือ ตัวเลขสีดำ จะแสดงด้วยสัญลักษณ์ + ด้านหน้าตัวเลข หรือบางทีก็ไม่มีสัญลักษณ์เลย และราคาน้ำแบบมาเลย์ที่เป็นค่าลบ หรือ ตัวเลขสีแดง จะแสดงด้วยสัญลักษณ์ – ด้านหน้าตัวเลขเสมอ

ราคาน้ำดำ ทำงานอย่างไร ?

ราคาน้ำมาเลย์แบบติดบวก หรือ ราคาน้ำดำ มีหลักการทำงานสองส่วน โดยในส่วนแรกตัวเลขจะใช้เพื่อคำนวณอัตราจ่าย โดยที่ผู้เล่นสามารถดูได้ว่าเจ้ามือจะจ่ายให้เราเท่าไหร่หากเดิมพันชนะ และในกรณีที่แพ้จะต้องเสียเงินเท่ากับจำนวนเงินที่วางเดิมพัน

สูตรคำนวณหาผลกำไร

เงินเดิมพัน × ราคาน้ำบอล = กำไร (ไม่รวมทุน)

ตัวอย่าง : จากรูปด้านบนราคาน้ำอิตาลี: 0.92 หากเราเดิมพัน 100 บาท ฝั่งอิตาลี

วิธีการคำนวณคือ

100 x 0.92 = 92 บาท คือกำไรหากชนะ

เมื่อรวมทุนเข้าไปด้วยคุณจะได้เงินทั้งหมด 192 บาท

แต่หากแพ้คุณจะเสียเงิน 100 บาท

ส่วนที่สองราคาน้ำมาเลย์ที่เป็นบวก ยังสามารถใช้เพื่อคำนวณความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ในการเดิมพันได้ด้วยว่า หากเราเลือกเดิมพันไปจะมีโอกาสชนะอยู่ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ โดยการคำนวณหาความน่าจะเป็นของผลลัพธ์สามารถทำได้ง่ายๆตามสูตรนี้

สูตรคำนวณหาอัตราชนะ

100 ÷ (ราคาน้ำบอล + 1) = อัตราชนะ %

ตัวอย่าง : จากรูปเดิม สมมุติคุณเดิมพันฝั่งอิตาลี ราคาน้ำคือ 0.92

วิธีการคำนวณคือ

100 ÷ (0.92 + 1) = 0.52

เท่ากับว่าหากเดิมพันที่ราคานี้ คุณจะมีโอกาสชนะเดิมพันโดยประมาณ 52%

ราคาน้ำแดง ทำงานอย่างไร ?

ราคาน้ำมาเลย์แบบติดลบ หรือ ราคาน้ำแดง มีหลักการทำงานสองส่วนเหมือนกันกับราคาน้ำดำ แต่จะแตกต่างกันตรงที่ ส่วนแรกของราคาน้ำแดงจะใช้เพื่อคำนวณเงินที่คุณจะเสียกรณีแพ้เดิมพัน และเงินที่จะได้คืนหลังกดเดิมพันสำเร็จแทนการใช้เพื่อคำนวณกำไรแบบราคาน้ำดำ ซึ่งเงินที่ได้คืนนี้จะได้รับทันทีหลังจากที่วางเดิมพันไปแล้วโดยไม่สนผลลัพธ์เดิมพันว่าชนะหรือแพ้

โดยวิธีการหาเงินที่เสียกับเงินได้คืนก็คือ ให้เอาเงินเดิมพันคูณกับ ค่าสัมบูรณ์ ของราคาน้ำที่เป็นลบ ก็จะได้เป็นเงินที่คุณต้องเสียเมื่อแพ้เดิมพัน และเมื่อเอาเงินทุนเดิมพันมาหักลบกับเงินที่ต้องเสียก็จะได้เป็นเงินคืน แต่กลับกันถ้าในกรณีคุณชนะก็จะได้รับกำไรเต็มจำนวนเท่ากับเงินที่วางเดิมพัน

💡Tips : ค่าสัมบูรณ์ (Absolute Value) หรือ abs คือ ค่าของจำนวนจริงซึ่งไม่คำนึงถึงเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ เช่นหากตัวเลขเป็น -2 ค่าสัมบูรณ์ก็จะเท่ากับ 2

สูตรคำนวณหาเงินที่เสียกับเงินที่ได้คืน

เงินเดิมพัน × abs(ราคาน้ำบอล) = เงินที่เสีย
เงินเดิมพัน – เงินที่เสีย = เงินคืน

ราคาน้ำแดง MY

ตัวอย่าง : จากรูปด้านบน อิตาลี ต่อ 1 ลูก ให้กับ เยอรมนี หากเราเดิมพัน 100 บาท ฝั่งเยอรมณี ที่ราคาน้ำ -0.90

วิธีการคำนวณคือ

100 × abs(-0.90) = 90
100 – 90 = 10

หลักจากแทงฝั่งเยอรมณีไป 100 คุณจะได้เงินคืน 10 บาท ทันที นั่นหมายความว่าระบบเก็บเงินคุณเพียงแค่ 90 บาท

ถ้าหากแพ้เดิมพันคุณจะเสียเงินแค่ 90 บาท

แต่หากชนะจะได้กำไรเท่ากับเงินเดิมพันคือ 100 บวกกับเงินที่ได้คืนอีก 10 บาท รวมเป็น 110 บาท

เมื่อรวมทุนเข้าไปด้วยคุณจะได้เงินทั้งหมด 210 บาท

ส่วนที่สองในการคำนวณหาความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ราคาน้ำมาเลย์ที่เป็นลบ จะใช้วิธีการที่แตกต่างกันกับแบบที่เป็นบวก โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน อันดับแรกต้องแปลงราคาน้ำที่เป็นลบให้กลายเป็นค่าสัมบูรณ์ก่อน และนำไปหารทศนิยมเพื่อหาเลขจำนวนเต็มตามสูตรนี้

ขั้นตอนที่ 1

100 ÷ ค่าสัมบูรณ์ของราคาน้ำ = เลขจำนวนเต็ม

หลังจากที่เราได้เลขจำนวนเต็มของราคาน้ำแล้ว ก็ให้นำมาคำนวณหาความน่าจะเป็นตามสูตรนี้

ขั้นตอนที่ 2

100 ÷ (เลขจำนวนเต็ม +100) = อัตราชนะ %

ตัวอย่าง: จากรูปเดิม สมมุติคุณเดิมพันฝั่ง เยอรมณี ราคาน้ำคือ -0.99

วิธีการการคำนวณคือ

ขั้นตอนที่ 1 : 100 ÷ abs(-0.99) = 101

ขั้นตอนที่ 2 :  100 ÷ (101+100) = 0.49

เท่ากับว่าหากเดิมพันที่ราคานี้ คุณจะมีโอกาสชนะเดิมพันโดยประมาณ 49%

2. อัตราจ่าย HK หรือ ราคาน้ำแบบฮ่องกง

อัตราจ่าย HK, หรือที่เรียกอีกชื่อว่า Hong Kong Odds, เป็น ราคาน้ำบอล ที่นิยมใช้งานในเอเชียมากที่สุด เพราะราคาน้ำแบบฮ่องกง จะแสดงอยู่ในรูปแบบของเลขทศนิยมเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีสัญลักษณ์ใดๆ ด้านหน้าตัวเลข จึงช่วยลดความสับสนและทำความเข้าใจได้ง่ายมากกว่าราคาน้ำแบบมาเลย์

ราคาน้ำแบบฮ่องกง ทำงานอย่างไร ?

หลักการทำงานของราคาน้ำแบบฮ่องกง ในส่วนแรกตัวเลขจะถูกใช้เพื่อดูว่าหากชนะผู้เล่นจะได้รับผลกำไรเท่าไหร่ โดยเป็นการคำนวณแบบไม่รวมต้นทุนเข้าไปด้วย แต่ถ้าแพ้จะจำกัดยอดเสียเท่ากับเงินวางเดิมพัน โดยวิธีคำนวณการหาผลกำไรจากตัวเลขราคาน้ำแบบฮ่องกงคือ ให้คุณเอาเงินวางเดิมพัน ไปคูณกับราคาน้ำ ก็จะได้เป็นผลกำไรตามสูตรนี้

สูตรคำนวณหาผลกำไร

เงินเดิมพัน × ราคาน้ำบอล = กำไร (ไม่รวมทุน)

ราคาน้ำฮ่องกง

ตัวอย่าง : จากรูปด้านบน สมมุติเราเดิมพัน 100 ที่ราคาน้ำ 1.08

วิธีการคำนวณคือ

100 × 1.08 = 108

เท่ากับว่าหากเดิมพันชนะคุณจะได้กำไร 108 บาท

บวกทุนด้วย 100 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 208 บาท

แต่ถ้าแพ้คุณจะเสียเงิน 100 บาท

ส่วนที่สองในการคำนวณหาความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ราคาน้ำแบบฮ่องกงว่ามีโอกาสชนะกี่เปอร์เซ็นต์ ให้เอา 1.00 ซึ่งถือเป็นราคากลางของแบบฮ่องกงมาหารด้วย ตัวเลขราคาน้ำบวกกับหนึ่ง ก็จะได้โอกาสชนะเป็นเปอร์เซ็นต์ ตามสูตรนี้

สูตรคำนวณหาอัตราชนะ

1 ÷ (ราคาน้ำบอล + 1) = อัตราชนะ %

ตัวอย่าง: สมมุติคุณเดิมพันฝั่ง … ราคาน้ำคือ 1.08

วิธีการการคำนวณคือ

1 ÷ (1.08 + 1) = 0.48

เท่ากับว่าหากเดิมพันที่ราคานี้ คุณจะมีโอกาสชนะเดิมพันโดยประมาณ 48%

💡Tips : ราคาน้ำแบบฮ่องกงตัวเลข 1.00 จะถูกใช้เป็นราคากลาง ความหมายคือ ความเป็นไปได้ที่ผลลัพธ์นั้นจะเกิดขึ้นมีโอกาสอยู่ที่ 50% โดยถ้าราคาน้ำต่ำกว่า 1.00 โอกาสที่ผลลัพธ์นั้นจะเกิดยิ่งมีมากขึ้นแต่ผลกำไรจะจ่ายน้อย กลับกันถ้าราคาน้ำยิ่งมากกว่า 1.00 โอกาสที่ผลลัพธ์จะเกิดก็ยิ่งน้อยลง แต่ก็มีโอกาสได้กำไรมากขึ้นกว่าเดิม

3. อัตราจ่าย EU หรือ ราคาน้ำแบบยุโรป

อัตราจ่าย EU (European Odds) หรือ ราคาน้ำแบบยุโรป เป็นรูปแบบของราคาน้ำที่ใช้ในการวางเดิมพันบอลในแถบยุโรป โดยราคาแบบนี้อาจเรียกอีกชื่อว่า Decimal Odds (อัตราจ่ายทศนิยม) เนื่องจากแสดงผลลัพธ์ในรูปแบบทศนิยมด้วยตัวเลขเท่ากับหรือมากกว่าหนึ่ง ทำให้เมื่อคำนวณผลกำไรจะเป็นการคำนวณแบบรวมทุนเดิมพันเอาไว้แล้ว จึงถือได้ว่าราคาน้ำแบบยุโรป เป็นราคาที่เข้าใจง่ายมากที่สุดจากราคาน้ำทั้งหมด

ราคาน้ำแบบยุโรป ทำงานอย่างไร ?

ราคาน้ำแบบยุโรป สามารถใช้เพื่อคำนวณผลกำไร และเปอร์เซ็นต์ชนะแพ้ได้เหมือนกับ ราคาน้ำบอล อื่นๆ โดยมีหลักการทำงานแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ๆ เหมือนกัน โดยในส่วนแรกตัวเลขราคาน้ำจะถูกใช้เพื่อคำนวณหาผลกำไรหากเดิมพันชนะ โดยเป็นการคำนวณแบบรวมทุนเดิมพันเข้าไปด้วย แต่ถ้าแพ้ก็จะเสียเท่ากับยอดเดิมเหมือนกับแบบฮ่องกง

ทั้งนี้ราคาน้ำแบบ EU จะเริ่มต้นด้วยเลข 1 เสมอ โดยที่หนึ่งมีค่าเท่ากับเงินที่วางเดิมพัน ถ้าเลขเกินหนึ่งขึ้นไปตรงนั้นคือผลกำไรที่เราจะได้ ยิ่งตัวเลขมากเท่าไหร่เราก็จะได้กำไรมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งวิธีการคำนวณหาผลกำไรก็จะเหมือนกับแบบฮ่องกง คือให้เอาเงินเดิมพันคูณกับ ตัวเลขราคาน้ำ ก็จะได้เป็นผลกำไรรวมทุนตามสูตรนี้

สูตรคำนวณหาผลกำไร

เงินเดิมพัน × ราคาน้ำบอล = กำไรรวมทุน

ราคาน้ำยุโรป

ตัวอย่าง : จากรูปด้านบน สมมุติเราเดิมพัน 100 ที่ราคาน้ำ 2.31

วิธีการคำนวณคือ

100 × 2.31 = 231

เท่ากับว่าหากเดิมพันชนะคุณจะได้กำไร 131 บาท

บวกทุนด้วย 100 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 242 บาท

แต่ถ้าแพ้คุณจะเสียเงิน 100 บาท

ส่วนที่สองตัวเลขราคาน้ำแบบยุโรป ก็สามารถใช้เพื่อคำนวณได้ว่าคุณมีโอกาสชนะกี่เปอร์เซ็นต์ โดยวิธีการคำนวณความน่าจะเป็นของผลลัพธ์แบบยุโรป คุณสามารถใช้สูตรง่ายๆ ดังนี้

สูตรคำนวณหาอัตราชนะ

1 ÷ ราคาน้ำบอล = อัตราชนะ %

ตัวอย่าง: สมมุติคุณเดิมพันฝั่ง … ราคาน้ำคือ 2.31

วิธีการการคำนวณคือ

1 ÷ 2.31 = 0.43

เท่ากับว่าหากเดิมพัน ….. คุณจะมีโอกาสชนะเดิมพันโดยประมาณ 41.3%

💡Tips : ราคาน้ำแบบยุโรปตัวเลข 2.00 จะถูกใช้เป็นราคากลาง ความหมายคือ หากราคาเท่ากับ 2.00 ความเป็นไปได้ที่ผลลัพธ์นั้นจะเกิดขึ้นมีโอกาสอยู่ที่ 50% ถ้าราคาต่ำกว่า 2.00 ความเป็นไปได้ที่ผลลัพธ์นั้นจะเกิดยิ่งมีมากขึ้นแต่ผลกำไรจะจ่ายน้อย กลับกันถ้าราคาน้ำยิ่งมากกว่า 2.00 โอกาสที่ผลลัพธ์จะเกิดก็ยิ่งน้อยลง แต่ก็มีโอกาสได้กำไรมากขึ้นกว่าเดิม

สรุปเนื้อหา

จะเห็นได้ว่า ราคาน้ำบอล แต่ละประเภทจะมีวิธีการคำนวณผลกำไร ผลเสีย และวิธีการหาผลลัพธ์ความน่าจะเป็นแตกต่างกันไปบ้างพอสมควร แต่จุดนึงที่เหมือนกันก็คือ หากราคาน้ำสูงกว่าราคากลาง ผลกำไรที่ได้จะยิ่งมากขึ้น แต่โอกาสชนะก็จะยิ่งน้อยลง กลับกันถ้าราคาน้ำต่ำกว่าราคากลาง ผลกำไรที่จะได้ก็จะยิ่งน้อยลง แต่โอกาสชนะก็จะยิ่งสูงขึ้น

ดังนั้นหากนักเดิมพันรู้ว่า ราคากลาง ของแต่ละประเภทคือเท่าใด ก็จะทำให้เราสามารถประเมิณความเสี่ยงจากอัตราต่อรองบอลที่เรากำลังจะเลือกเดิมพันได้ ทำให้สามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างชาญฉลาดจากผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากการเดิมพันได้นั่นเอง

แหล่งอ้างอิง
เรียบเรียงโดย
แชร์โพสนี้ :
หมวดหมู่บทความ